ในหัวข้อนี้จะอธิบายถึงความหมายของรายงาน เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในการ Test OTDR นะครับ
Events on Fibers
เหตุการณ์ (event) บนสายใยแก้วนำแสงจะเกิดจากการสูญเสีย (Loss) หรือการสะท้อน (Reflection) มากกว่า การกระจาย (Scattering) ที่เกิดจากวัสดุของสายใยแก้วที่ผลิต หลักการนี้จะใช้กับการเชื่อมต่อทุกแบบ รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการโค้งงอ (ฺBending) ,การแตก (Crack) หรือ การขาด (Break) ของสายใยแก้วนำแสง
OTDR trace จะแสดงผลของการวัดเป็นกราฟฟิกบนจอภาพ โดยแกนในแนวตั้งจะเป็นแกนกำลัง (power axis) ส่วนแกนในแนวนอนเป็นแกนระยะทาง ในกราฟต่างๆเหล่านี้จะแสดงให้รู้จักกับ trace ของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นในการทดสอบนะครับ
1. Single Fibers
single fiber จะทำให้เกิด trace ดังรูป จะเห็นว่ามีการลดของ power lever (attenuation) ลงเรื่อย ๆ และที่จุดเริ่มต้นและจุดปลา
2. Whole links
หมายถึง “การเชื่อมโยงทั้งหมด” สามารถจะมองให้เป็นแบบ whole link ได้ นอกจากจะมีการลดทอนแบบทั่วไ
3. Beginning of a Fiber
ถ้าใช้ normal straight connector จุดเริ่มต้นของไฟเบอร์จะแสด
4. Fiber End
จุดสิ้นสุดไฟเบอร์ : โดยทั่วไปแล้วจะมองเห็นเป็น
5. Break
กรณีสายใยแก้ว ถูกทำลายหรือถูกทำให้ขาด (interrupted or broken) จุดที่ขาด จะไม่มีอีเวนต์ของการสะท้อน
6. Connector or Mechanical Splice
(จุดที่มีคอนเน็กเตอร์หรือจ
การใช้ Connectors และการเชื่อมต่อแบบประกบกัน
7. Fusion Splice
(การเชื่อมประกบแบบหลอมละลา
การ เชื่อมประกบแบบหลอมละลายจะไ
8. A Splice as A Gainer
ในกรณีที่เป็นการเชื่อมประก
ถ้าในกราฟแสดงเป็น gainer จากการวัดในทิศทางหนึ่ง แล้วเมื่อทำการวัดจาดจุดปลา
9. Bend or Macrobending
การแยกความแตกต่างระหว่าง bend กับ splices แนะนำให้ดูบันทึกในการติดตั
ถ้าคุณวัดโดยใช้ค่า wavelength สูง ลักษณะของ macrobending จะแสดงเป็น higher loss ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ทำการว
10. Cracks การ crack
หรือการแตกร้าว คือ การที่สายใยแก้วนำแสงถูกทำล
11. Patch cords
ถูกใช้สำหรับเชื่อมต่อ OTDR กับไฟเบอร์ที่ต้องการวัด การสะท้อนกลับเริ่มต้น (initial reflection) จะไม่ครอบคลุมจุดเริ่มต้นขอ